คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อต้านมะเร็ง
แม้ว่ามะเร็งจะเป็นโรคร้ายแรง แต่การดูแลตนเองที่ดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและส่งเสริมสุขภาพโดยรวมได้ ดังนี้
1. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้:
- เลือกทานผักและผลไม้ให้หลากหลายสี เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร
- เลือกธัญพืชไม่ขัดสี แทนข้าวขาว
- ลดอาหารแปรรูป ไขมันอิ่มตัว และเนื้อแดง
- จำกัดปริมาณน้ำตาล เกลือ และไขมัน
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ:
- พยายามออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
- เลือกกิจกรรมที่เหมาะกับร่างกาย เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเต้น
- แบ่งออกกำลังกายเป็นช่วงสั้นๆ 10-15 นาที ระหว่างวัน
3. รักษาสมดุลน้ำหนัก:
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการหากต้องการลดน้ำหนัก
4. งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่:
- สารเคมีในควันบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งหลายชนิด
- การเลิกสูบบุหรี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงต่อมะเร็ง
5. ดื่มแอลกอฮอล์แต่พอดี:
- การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งหลายชนิด
- ผู้หญิงควรดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน ผู้ชายไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน
6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ:
- การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
- ผู้ใหญ่ควรนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
7. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ:
- ตรวจร่างกายตามคำแนะนำของแพทย์
- ตรวจคัดกรองมะเร็งตามวัยและกลุ่มเสี่ยง
8. ป้องกันแสงแดด:
- ทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน
- สวมเสื้อผ้ามิดชิด สวมหมวก และแว่นกันแดด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดๆ เป็นเวลานาน
9. บริหารจัดการความเครียด:
- ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
- หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น ออกกำลังกาย ฝึกโยคะ หรือทำสมาธิ
10. พบแพทย์ทันทีหากพบอาการผิดปกติ:
- รีบพบแพทย์หากพบอาการผิดปกติ เช่น ก้อนเนื้อ แผลเรื้อรัง ไอเรื้อรัง หรือถ่ายอุจจาระผิดปกติ
การดูแลตนเองที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงต่อมะเร็ง

ในปัจจุบัน วิธีการรักษาโรคมะเร็ง มีทั้งการฉายรังสี การรักษาด้วยเคมีบําบัด และการผาตัด เอาชิ้นเนื้อมะเร็งออกไป ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และการรักษาแบบเคมีบําบัดด้วยยาในปัจจุบันก็ก่อให้เกิดผลขางเคียงต่อผู้ป่วยมาก เช่น ผมร่วง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เป็นต้น การนําตำรับยาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของกัญชามาใช้ในการรักษาจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งกําลังได้รับความสนใจอยางมากทั้งในคนไทยและ ชาวต่างชาติ การศึกษาวิจัยฤทธิ์ของสมุนไพรในการต้านมะเร็งจึงเป็นการ นําเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้าไปสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพร และยืนยันถึงฤทธิ์การรักษาที่มีอยู่จริงตามตำรับยาไทย

การวิจัยระบุว่าแคนนาบินอยด์ซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่พบในกัญชาอาจมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง สารประกอบเหล่านี้ รวมถึง delta-9-tetrahydrocannabinol (THC) และ cannabidiol (CBD) ได้รับการศึกษาถึงความสามารถในการยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าสารแคนนาบินอยด์สามารถกระตุ้นการตายของเซลล์ (การตายของเซลล์) ยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ และขัดขวางการสร้างเส้นเลือดใหม่ (การก่อตัวของหลอดเลือดใหม่ที่ไปเลี้ยงเนื้องอก) ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกลไกที่อาจเป็นประโยชน์ในการรักษามะเร็ง
ผลของสารแคนนาบินอยด์ต่อมะเร็งประเภทต่างๆ รวมถึงมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งไกลโอบลาสโตมา มีศึกษาแสดงให้เห็นถึงผลต้านมะเร็งที่มีนัยสำคัญในแบบ clinical studies อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือประสิทธิภาพของแคนนาบินอยด์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็งและชนิดของแคนนาบินอยด์ที่ใช้ รวมถึงแคนนาบินอยด์เมื่อใช้ร่วมกับการรักษามะเร็งแบบเดิมๆ เช่น เคมีบำบัดหรือการฉายรังสี อาจเพิ่มผลการรักษาและลดผลข้างเคียงของการรักษาเหล่านี้ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของสารแคนนาบินอยด์ที่จะนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การรักษามะเร็งที่ครอบคลุม
ติดต่อสวัสดีคลีนิกเวชกรรม
➡️02-972-4013
➡️02-972-4014
➡️02-972-3981
➡️093-438-1515
➡️098-824-8121
🏥ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ ทุกวัน เวลา 8.00-17.30น.
คลิ้กแอดไลน์ https://line.me/R/ti/p/%40sawasdeeclinic
Line @sawasdeeclinic
สวัสดีคลินิก Thailand’s Leading Medicinal Plant, Medical Cannabis Clinic, คลินิกกัญชา กัญชารักษามะเร็ง คลินิกกัญชาทางการแพทย์ กัญชารักษาโรค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกัญชา คลินิกกัญชาที่ไหนดี ยาสมุนไพรรักษามะเร็ง รักษามะเร็งที่ไหน หมอมะเร็งเก่งๆ CBD THC กัญชานอนไม่หลับ รักษามะเร็งหาย กัญชารักษามะเร็งหายไหม แพทย์หญิงจินตนา คลินิกกัญชาดีดี