บันทึกทางประวัติศาสตร์ ระบุว่าผู้คนในช่วง 300 ปีก่อนคริสตศักราชรู้ว่ากัญชากระตุ้นความอยากอาหาร ทั้งอาหารอาหารคาวและหวาน
มีรายงานการศึกษาชี้ชัด เกี่ยวกับวิธีการใช้กัญชาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน และความอยากอาการ นำไปสู่การรักษาอาการสูญเสียความอยากอาหารในความเจ็บป่วยเรื้อรัง อาทิ โรคมะเร็ง การศึกษาก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่าการใช้กัญชาจะช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ขณะที่การใช้กัญชาระยะยาวจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วน ภาวะดื้อต่ออินซูลิน และโรคเบาหวาน
นักวิจัยพบว่ากัญชาเป็นยากระตุ้นฮอร์โมนแห่งความหิวได้อย่างไร ?
การศึกษาชิ้นนี้ระบุบริเวณถึงการทำงานของสมองที่กระตุ้นโหมด ‘หิว’ ของพวกเราเมื่อได้รับยา
“ เราทุกคนรู้ดีว่าการใช้กัญชาส่งผลต่อความอยากอาหาร แต่ยังมีรายละเอียดในด้านนี้จำกัด เรายังเข้าใจน้อยมากว่าทำอย่างไรหรือทำไม” Dr. Jon Davis, นักวิจัยจากภาควิชาสรีรวิทยาและประสาทวิทยาเชิงบูรณาการ มหาวิทยาลัย Washington State กล่าว “ จากการศึกษาการทำงานของสารสำคัญจากพืชกัญชา เราพบข้อมูลพันธุกรรมและสรีรวิทยาในร่างกายที่ทำให้กัญชาสามารถเปิดหรือปิดพฤติกรรมการกินได้”
เบื้องต้นในการใช้กัญชาทางการแพทย์ เราต้องทำความเข้าใจของสารสำคัญกลุ่มของสารประกอบที่เรียกว่า cannabinoids โดยเฉพาะอย่างยิ่ง tetrahydrocannabinol (THC) มีส่วนรับผิดชอบต่อผลกระทบทางประสาท ความสามารถของ THC ในการกระตุ้นความอยากอาหารมีประโยชน์เนื่องจากความเจ็บป่วยหลายอย่าง มีหลายกลุ่มโรคที่ทำให้เกิดการสูญเสียความอยากอาหารมาก ซึ่งจะลดคุณภาพชีวิตและทำให้การฟื้นตัวช้าลง
อาทิ การทำเคมีบำบัดในมะเร็ง ยาเคมีบำบัดนอกจากจะทำลายเซลล์มะเร็งแล้ว ยังมีผลกระทบต่อเซลล์ปกติที่แบ่งตัวเร็วในร่างกายด้วย เป็นผลให้เกิดอาการข้างเคียงต่าง ๆ เช่น มีไข้ หนาวสั่น ซีด เหนื่อย อ่อนเพลีย มีจุดเลือดจ้ำเลือดตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บปากเจ็บคอ ท้องเสีย อุจจาระมีสีดำ ท้องผูก ผมร่วง ทานอาหารไม่ได้
การทำงานกัญชาเพื่อกระตุ้นการทำงาน เกิดขึ้นอย่างไร ?
การได้รับกัญชาทำให้รับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ บ่อยขึ้น โดยปกติเมื่อท้องว่างมันจะปล่อยฮอร์โมนที่เรียกว่าเกรลิน (ghrelin) ซึ่งเป็นข้อความไปยังสมองว่าได้เวลาทานอาหารแล้ว
สารสำคัญ THC ซึ่งเป็น cannabinoid ในกัญชาสามารถจับตัวรับในร่างกายของเราที่เรียกว่า cannabinoid type 1 (CB1) และทำให้การกินมากขึ้นและการเพิ่มน้ำหนัก สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นประโยชน์ภายใต้เงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่างเช่นโรคมะเร็งและกลุ่มอาการเสียที่เกี่ยวข้องกับ HIV กลุ่มผู้สูงอายุ
ตัวรับ CB1 นี้ยังสามารถพบได้ในหลายจุดในร่างกาย :
- ปมประสาทซึ่งอาจช่วยเพิ่มความสุขในการรับประทานอาหาร
- สมองส่วนหน้าของลิมบิกซึ่งอาจช่วยเพิ่มความน่ารับประทานของอาหาร
- กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กซึ่งทั้งสองควบคุมเกรลิน (ฮอร์โมนกระตุ้นความอยากอาหารที่เร่งการย่อยอาหาร)
- ไฮโปทาลามัสและส่วนของสมองที่ช่วยควบคุมการบริโภคอาหาร
Add a Comment