การดำเนินการพิจารณาทางกฎหมายกัญชาทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญช่วงปลายปี 2020 หลังจากผู้มีอำนาจในรัฐต่างๆได้พิจารณาหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่ากัญชามีประโยชน์ในการรักษาสภาพและอาการดังกล่าวจากนั้นจึงอนุมัตินโยบายที่สนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์ในรัฐที่ได้รับการรับรองและสนับสนุนการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ทางการแพทย์ของ cannabinoids เพื่อช่วยบรรเทาอาการของโรคและผลข้างเคียงของการรักษาโรค
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2020 รัฐมิสซิสซิปปี และเซาท์ดาโคตาได้อนุมัติมาตรการกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ ทำให้ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกามีนโยบายการใช้กัญชาทางการแพทย์ทั้งหมด 35 รัฐและ 4 เขตการปกครอง
ตัวอย่างของนโยบายภาครัฐ
โครงการกัญชาทางการแพทย์ของรัฐเพนซิลเวเนีย ให้การเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการป่วย
ผู้ป่วยในเพนซิลเวเนียที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการป่วยที่รุนแรง ร่างกายอ่อนแอ หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายภายใต้กฎหมายกัญชาทางการแพทย์ของรัฐเพนซิลเวเนีย หรือ “ The Pennsylvania Medical Marijuana Program”
มีอาการอะไรบ้าง
เงื่อนไขทางการแพทย์ที่ผ่านการรับรอง ผู้ป่วยสามารถมีสิทธิ์ได้รับกัญชาทางการแพทย์หากพวกเขามีอาการป่วยระยะสุดท้ายหรือหากทุกข์ทรมานจากอาการป่วย อาทิ
- Amyotrophic Lateral Sclerosis
- ออทิสติก.
- โรคมะเร็ง
- โรค Crohn
- ความเสียหายต่อเนื้อเยื่อประสาทของไขสันหลัง
- โรคลมบ้าหมู
- ต้อหิน
- HIV (Human Immunodeficiency Virus) / AIDS
- โรคฮันติงตัน
- โรคลำไส้อักเสบ
- อาการชักที่รักษายาก
- โลหิตตีบ
- โรคระบบประสาท
- โรคพาร์กินสัน
- ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง
- ความเจ็บปวดเรื้อรังอย่างรุนแรงหรือไม่สามารถรักษาได้ อาการปวดเรื้อรังที่รุนแรง
- Sickle Cell Anemia
- ผู้ป่วยระยะสุดท้าย
- Tourette syndrome
กัญชาทางการแพทย์ที่อนุญาตในขั้นต้น ได้แก่ ยาเม็ด น้ำมัน เจล ครีม ขี้ผึ้ง ยาหยด และการสูบไอน้ำที่ไม่ได้มาจากดอกกัญชา ร้านขายยาไม่สามารถขายของกินที่มีส่วนผสมกัญชาได้ แต่ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์สามารถผสมลงในอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อให้ผู้ป่วยรับประทานในสถานที่หรือที่อยู่อาศัยได้สะดวก อนุญาตให้ระเหยเป็นไอ
ผู้ป่วยที่ลงทะเบียนเพื่อรับกัญชาทางการแพทย์ในรัฐอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ในเพนซิลเวเนีย
เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจให้ผู้ออกนโยบายของไทยและแพทย์ไทยในการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อประโยชน์แก่การรักษาคนไข้ต่อไปอย่างไร
Add a Comment