
- กระตุ้นความอยากอาหาร
- ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- ในอดีตที่ผ่านมากัญชาถูกนำไปผสมกับอาหารเพื่อช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหาร ทางการแพทย์จึงเลือกใช้สาร THC ที่มีสูตรโครงสร้างทางเคมีชื่อว่า Dronabinol นำมาประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ซึ่งพบว่าสามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนของผู้ป่วยกลุ่มนี้ และทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำสารสำคัญในเรซินมาใช้เป็นยาระงับการอาเจียนที่เกิดขึ้นในคนที่เป็นโรคมะเร็ง ซึ่งได้รับการรักษาโดยวิธีเคมีบำบัด (chemotherapy)
- ลดความดัน
- การวิจัยล่าสุดปี 2023 ศึกษาผลกระทบของ CBD โดยใช้น้ำมันหยดให้คนไข้ที่มีความดันโลหิตสูงเล็กน้อยถึงปานกลาง เปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอกพบว่าการใช้ CBDช่วยลดความดันโลหิตในผู้เข้าร่วมการศึกษาโดยไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง ในปัจจุบันมีการนำกัญชามาใช้เป็นยาลดความดันในนัยน์ตาของคนที่เป็นต้อหิน (glaucoma) แต่ผลที่ได้ยังไม่ชัดเจน ในปัจจุบันมีการนำกัญชามาใช้เป็นยาลดความดันในนัยน์ตาของคนที่เป็นต้อหิน (glaucoma) แต่ผลที่ได้ยังไม่ชัดเจน และยังต้องรอการพิสูจน์อยู่
- คลายเครียด ลดอาการวิตกกังวล สร้างความสุข
- การที่ร่างกายได้รับสาร Cannabinoids ในปริมาณที่เหมาะสม จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดอาการซึมเศร้าที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้สูงอายุได้ เนื่องจากสาร Cannabinoids จะช่วยปรับสมดุลต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้ผู้ใช้มีความสุข ใจเย็นลง และลดการแสดงพฤติกรรมรุนแรงในทางด้านอารมณ์ (หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม)
- ป้องกันอัลไซเมอร์
- จากงานวิจัยพบว่า สาร THC สามารถยับยั้งเซลล์เอเบตาโปรตีนไม่ให้ผลิตสารพิษที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะฉะนั้นกัญชาอาจสามารถป้องกันการเกิดอัลไซเมอร์ได้
- ฆ่าเซลล์มะเร็ง
- จากการศึกษาพบว่า กัญชามีสรรพคุณในการฆ่าเซลล์มะเร็งและทำให้เนื้อร้ายในสมองฝ่อลดลงได้ สารสกัดของกัญชาสามารถช่วยให้คนไข้ตอบสนองกับการบำบัดด้วยการฉายรังสีดีขึ้น ส่วนการทดลองกับสัตว์ ก็พบว่าสารจากกัญชาสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งบางชนิดได้ ทำให้เนื้อร้ายฝ่อลง โดยมีหลักฐานว่า สารสกัดจากกัญชาสามารถทำให้เนื้อร้ายในสมองชนิดที่ร้ายแรงที่สุดมีขนาดลดลง ซึ่งสารสกัดเหล่านี้เมื่อนำมาใช้ควบคู่กับการฉายแสง จะทำให้ฤทธิ์ในการฆ่ามะเร็งมีเพิ่มมากขึ้นด้วย
- ลดการอักเสบในสมอง
- สารสกัดจากกัญชาอาจสามารถรักษาโรคที่เกิดจากการอักเสบของสมองและไขสันหลัง หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบอื่น ๆ หรือแม้แต่อาจช่วยทำลายเนื้องอกที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้
- ลดอาการเกร็ง ชัก สั่น
- จากการวิจัยพบว่า คนไข้ที่รับ THC หรือสารสกัดจากกัญชาอีกตัวที่เรียกว่า cannabidiol (CBD) สามารถช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อและอาการสั่น สามารถทำให้นอนหลับ และมีการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น อีกทั้ง CBD ยังออกฤทธิ์ได้นานกว่าการใช้สเตียรอยด์หรือยาแก้อักเสบอีกด้วย จึงทำให้ในแคนาดามีการใช้สเปรย์ที่มีส่วนผสมของ cannabinoid เพื่อรักษาโรคที่เกิดจากการอักเสบของสมองและไขสันหลัง (Multiple Sclerosis – MS)
- ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ
- ลดน้ำตาลในเลือด ควบคุมเบาหวาน
- สาร cannabinoid ที่พบในกัญชาอาจมีความสัมพันธ์กับระบบการเผาผลาญของร่างกาย โดยพบว่าในผู้ที่สูบกัญชาจะเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานน้อยกว่าคนที่ไม่เคยสูบ โดย Ms. Penner และคณะ ได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ของการสูบกัญชากับระดับน้ำตาลในเลือดในอาสาสมัครจำนวน 4,657 ราย (แบ่งเป็น กลุ่มกำลังสูบ, กลุ่มที่เคยสูบแต่เลิกแล้ว และกลุ่มที่ไม่เคยสูบ) ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่สูบกัญชามีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่เคยสูบกัญชาร้อยละ 16 นอกจากนั้นยังพบว่ามีค่า HOMA-IR ต่ำกว่าร้อยละ 17 ระดับคอเลสเตอรอล HDL หรือไขมันชนิดดี สูงกว่า 1.63 mg/dL และมีรอบเอวเล็กกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนกลุ่มที่เคยสูบแต่เลิกไปแล้ว ไม่พบว่ามีการลดลงของระดับน้ำตาลเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่เคยสูบ จากการทดลองดังกล่าว จึงสันนิษฐานได้ว่า ผลของกัญชาที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดจะมีผลเฉพาะในช่วงที่ใช้กัญชา
ประเทศต่างๆมีการนำกัญชามาใช้รักษาและบรรเทาหลายโรคจริง แต่ผลการรักษาขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านผู้ป่วย ด้านคุณภาพยา และการรักษาอื่นๆที่ได้รับ
ประโยชน์ของสารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์
- โรคลมชักที่รักษายาก โรคลมชักรุนแรงในเด็ก Dravet Syndrome และ Lennox-Gastaut Syndrome
- ภาวะคลื่นไส้และอาเจียนจากยาเคมีบําบัด
- ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (multiple sclerosis)
- ภาวะปวดประสาท
- มะเร็ง
- การเพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง
- โรคพาร์กินสัน
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคปลอกประสาทอักเสบ
- โรควิตกกังวล ตื่นกลัว
- ผู้ป่วยที่ต้องดูแลแบบประคับประคอง
- เพิ่มการอยากอาหาร
- ลดอาการของ PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder)
- เครียด ซึม เศร้า นอนไม่หลับ ไมเกรน Office Syndrome
- สะเก็ดเงิน ภูมิแพ้ผิวหนัง งูสวัด
- อาการผิวหนังอักเสบอื่นๆ เช่น จากการแพ้เคมีบำบัด หรือสิว
- ลดอาการปวดเรื้อรังจากกระดูกและกล้ามเนื้อ ปวดประจำเดือน
- ลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูง
- ต้อหิน
- อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์อัมพาต
- ภาวะทางเดินอาหารอักเสบเรื้อรัง
- ไวรัสตับอักเสบซี
- อาการติดยาเสพติด

Add a Comment